ประวัติ PDF พิมพ์ อีเมล

เกิดที่จังหวัดอุทัยธานีครับ วันที่ 19 พฤษภาคม 2519 เมืองที่มีแต่ขุนเขา ตอนเกิดใหม่มีพ่อคนหนึ่ง กับน้องอีก สองคนเป็นแฝดกัน แต่พอเริ่มโตขึ้นจำความได้ ก็มารู้ว่าไม่ใช้พ่อของเราเอง เป็นพ่อของน้องชายผม พ่อผมทิ้งไปตั้งแต่เล็กๆ แล้ว อยู่ต่อมาได้ไม่นานพ่อของน้องชาย(พ่อเลี้ยง)ก็ทิ้งพวกเราไปอีก ตอนเด็กๆ ก็ไม่ได้คิดอะไรมากโดนล่อโดนว่าก็ไล่เตะ ไล่ต้อยกันไป ตามประสา แต่ก็ได้เพื่อนที่เกิดใกล้เคียงกันอยู่ด้วยกันเล่นด้วยกัน อยู่ใกล้ธรรมชาติ ไม่มีไฟฟ้าใช้หุงข้าวเตาถ่าน กินน้ำข้าวใส่น้ำตาล อร่อยอย่าบอกใครเชียว ทุกวันนี้หุ้งข้าวหม้อไฟฟ้าอดกิน555+

พอถึงวัยเข้าโรงเรียนก็ไม่อยากเข้าเรียนเพราะสนุกสนานกับการเล่นมากๆ แต่เพื่อนๆ เข้าเรียนกันหมดแล้วก็จำใจไปโรงเรียนแต่ก็ขาดบ้างไปบ้าง บางวันป้าก็ต้องถือไม้เรียวคุมตัวไปส่งถึงโรงเรียน(ไม่ค่อยได้อยู่กับแม่ครับเพราะพอพ่อทิ้งไปแม่ก็ต้องหาเลี้ยงคนเดียว) ปรากฏว่าพอสอบป.1 ขึ้นป.2 ผมก็สอบตก เสียใจมากครับ เพื่อนๆ กลุ่มเดียวกันขึ้นป.สองไปหมดแล้ว ก็เลยมาโรงเรียนทุกวัน ที่นี้ตั้งแต่ป.1 ถึงป.6 ไม่เคยได้ที่ 4 เลยครับ 1 2 3 ตลอด ส่วนใหญ่จะที่หนึ่งครับ 55+ ชีวิตตอนประถมผาดโผนครับ เล่นกันแบบเด็นธรรมไม่เป็น อยู่ป.4 หล่อเทียน ลงถ้ำ ไม่ใช่ถ้ำที่เขาบุกเบิกแล้วนะครับถ้ำที่ไม่มีอะไรเลยเป็นเหว ต้องใช้เชือกทำบันไดปีนป่ายกันสุดฤทธิ์สุดเดท ยิงนกตกปลาเป็นกิจวัตร เอาเชือกมัดบนต้นไม้ทำแบบทหารแล้วลูดลงมาจากยอด  ลงน้ำบ้าง บนดินก็ลง สนุกสนาน ลำบากตรากตำ กับกลุ่มเพื่อนๆ จึงทำให้รักกันมาก ทำวงดนตรีเลียนแบบคาราบาวๆ ตอนนั้นดังมาก แล้วก็มี 7 คนพอดี พวกผมก็เคาะกระติกน้ำ กระป๋อง ลัง แล้วก็ลอมวงแล้วก็สัญญากันว่าโตขึ้นพวกเราจะเล่นดนตรีด้วยกันพอจบป.6 เพื่อนในกลุ่มที่เรียนจบก่อนก็นำทางไป

?

มัธยมผมเรียนที่โรงเรียนเนินขามรัฐประชานุเคราะห์ ก็เรียนดีไม่มีปัญหานะครับแล้วก็เป็นนักกีฬาของโรงเรียนด้วย สร้างชื่อให้กับตัวเองตั้งแต่ม.1 ติดตัวโรงเรียนกับชุดใหญ่ แต่ก็เป็นตัวสำรองนะครับเพราะตัวเล็ก อาจารย์เก็บไว้เป็นที่เด็ด ตัวจบสกอร์55+ ตอนนี้แม่เริ่มมีปัญหาครับเรื่องการเงินเพราะพอผมเรียนสูงขึ้นก็ใช้เงินมากขึ้น ก็ไม่ได้คิดอะไรเท่าไร แต่แม่จะมีผู้ชายมาติดเยอะเนื้องจากแม่เป็นคนสวยแล้วก็ยังสาว มันก็ทำให้เราคิดมาก บางที่ก็ห่วงแม่บ้างไม่อยากให้ใครมาจีบ ถ้าผมอยู่จะไม่มีใครกล้าเข้าบ้าน แต่แม่ก็จะนัดเจอนอกบ้านแล้วให้เขามารับไป แต่บางคนก็พาไปเทียวดูวงดนตรีลูกทุ่งผมก็เคยไปกับแม่หลายๆ ครับ ก็ชอบเพราะตัวเองก็ชอบดนตรีอยู่แล้ว หลังๆ พอแม่ไม่ค่อยมีเงินผมก็เอามะระกอไปขายให้แม่ค้าขายส้มตำหน้าโรงเรียน พอช่วงอยู่ม.3 เริ่มแย่ ผมก็มีปัญหากับแม่บ่อยๆ บางที่ก็ไม่ไปโรงเรียนขาดเรียนบอย ไปแล้วบางที่ก็กลับมา การเรียนในช่วงปีสุดท้ายเกือบไม่จบ ถามผมว่าผมมีแววทางศิลปไหมตอนเรียน ก็มีอยู่บ้างนะครับตอนทำงานศิลปชิ้นหนึ่งของอาจารย์ เรียกว่า "สเต็นซิล" คือการใช้แปลงจุมสีแล้วมาดีดๆ ให้ลงไปในบล็อคที่เราตัดไว้ ผมตัดเป็นภาพไก่ชนสองตัวตีกัน แล้วก็ฉลุทักลายเส้นขนของไก่ จนได้รับคำชมจากอาจารย์ศิลปะท่านนั้นครับ ชื่อ อาจารย์ ธีระเดช แต่สุดท้ายเทอมนั้นผมก็ติด ร. 555+ พอใกล้สอบปลายภาคก็มีวิทยาลัยต่างๆ มาแนะแนวแล้วก็ให้สมัครโคต้าผมก็สมัครเข้าโคต้าช่างอีเล็กทรอนิค เพราะมองว่าอนาคตเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องมาแรงสมัครโคต้าด้วยคะแนนที่พอดีมากๆ แต่สุดท้ายก็ได้โคต้าไปเรียนโดยไม่ต้องสอบเข้า แต่ดันมีผมไปคนเดียวเพื่อนๆ ที่สมัครด้วยกันเขาไปเรียนสายอื่นๆ กันหมด

?

?

ช่วงชีวิตตอนเรียนวิทยาลัยเทคนิคชัยนาท เป็นช่วงที่ประสบปัญหามากที่สุดเริ่มคิดถึงชีัวิตมากขึ้นเริ่มมีปัญหาเรื่องเงินมาขึ้น ทั้งปัญหาจากตัวเองแล้วก็จากพ่อเลี้ยง ปัญหาจากตัวเองก็คือการไม่รู้จักใช้เงิน คือเราไม่เคยถือเงินเยอะ ตอนเรียนมัธยมก็ได้วันละ 20 บาท จนจบ พอได้มาเรียนที่เทคนิคต้องมาอยู่หอ แม่ให้เงินที่ละ 2000 บาทแต่แม่ให้อยู่ให้ถึงเดือน ผมใช้หมดในสามวันแรกเท่านั้น หลังจากนั้นก็ต้องอดๆ ยากๆ มาม่าปลากระป๋อง ผักบุ้งตามหลักของนักเรียนหอ ทนให้ครบอาทิตย์แล้วก็กลับมาโกหกแม่ต่างๆ นานา แม่ก็เชื่อ(ผมว่าแม่แกล้งเชื่อ) ที่นี้ก็เริ่มคิดเพราะกว่าแม่จะเชื่อก็ด่าก่อนบ่นก่อน ตามหลักของแม่บ้านนอก เราเองเราก็คิดเริ่มคิดเรื่องชีวิตมากขึ้นเรื่องว่า ทำไมเราต้องเรียน? เป็นโจทญ์แรก ไม่เรียนไม่ได้หรือไง แม่เราไม่เห็นจะจบสูงเลย ทำไม่หาเงินส่งเราเรียนสูงกว่าตัวเองได้ ย้อนไปอีก ยายเรา ไม่เห็นได้เรียนหนังสือเลยทำไมเลี้ยงแม่เราจนโตได้ จริงๆแล้วมันต้องเรียนหรือป่าว "ทำไม" เราต้องเสียเงินมากมาย เสียเวลาหลายปี เพื่อที่จะทำงานหาเงินซื้อข้าวกิน เห็นยายปลูกข้าวบนเขา(ข้าวไร่)แค่ไม่มากก็กินได้เกือบปี ปลูกข้าวในที่น้ำขังหน้าบ้านไม่ถึงงานได้ข้าวตั้งหลายกระสอบ จริงๆ แล้วเราต้องทำอะไรละ จึงทำให้ตัดสินใจดร๊อบเรียนไว้ตอนปีสองเทอมสอง เพื่อที่จะมาทำการเกษตร ตอนนั้นแม่ปลูกมะม่วงไว้ 40 ต้น ก็กะจะมาทำส่วนมะม่วงนี้แหละ ตอนนั้นอายุ 16 ปี นะครับ ตอนไปบอกแม่ แม่ผมก็ร้องให้เขาบอกว่าใครทำให้แม่ร้องให้จะตกนรก แต่ผมคิดว่าแม่ผมคิดผิด ผมก็เลยไม่กลัวผมคิดว่าสิ่งที่ผมทำถูกต้อง และยืนอยู่บนพื้นฐานของความต้องการของมนุษย์จริงๆ

แต่สังขารก็ไม่อำนวยเนื้องจากร่างกายมิได้ถูกฝึกฝนให้ทำการเกษตรได้ ลองคิดดู 7 ขวบถึง 16 ขวบเรียนแต่หนังสือไม่เคยออกแดดอยู่ๆ จะมาจับจอบดายหญ้าขุดหลุมพรวนดิน มันก็ไม่ไหว จึงหันหน้าเข้ากรุงเทพมาหางานทำ ผมมาอยู่แถวหนามแดงกับลูกลุงผมมีฐานะเป็นพี่ แต่ในใจก็ฝังลึกไว้เสมอว่าจะต้องออกจากเมืองแล้วก็ย้อนวิถีชีวิตแบบวัยเด็กของผมให้ได้ ในตอนนั้นผมจำไดัว่าครอบครัวผมใช้เงินไม่ถึงสองพันบาทในการใช้จ่ายปีหนึ่ง ของครอบครัวที่มีกัน 6 ชีวิต มี ตา ยาย แม่ ผม และน้องอีกสองคน แต่เนื้องจากอายุยังไม่ถึง 18 ก็เข้าโรงงานดีๆ ไม่ได้ โรงงานแรกที่รับผมเข้าทำงานคือ โรงงานตราม้า นานมี ต้องขอบคุณ ผมอยู่แผนกทำยางลบ เป็นคนผสมยางลบทำได้ไม่นานก็ลาออก กลับบ้านเพราะเบื่อกรุงเทพ ผมจะไปๆ มาแบบนี้ จนญาติๆ ละอาว่าผมทำงานไม่จริงจัง ผมก็จะอ้างว่างานหนัก พอมาอยู่บ้านเงินหมดก็ขอเงินแม่มากรุงเทพใหม่ เงินหมดก็กลับบ้าน จนพอครบกำหนดดร๊อบ ผมก็กลับไปเรียน แต่ก็ได้ไปเรียนกับรุ่นน้องช่วงนี้กะกว่าจะตั้งใจเรียน แต่กลับมีปัญหาเรื่องยกพวกตีกัน กลุ่มผมโดนไล่ตี แล้วก็มีปัญหากับครูฝึสอนที่สอนแบบโหด ไม่มีใจในการสอน ไม่มีใจเป็นครู จึงตัดสินใจลาออกเลย แล้วก็ไปทำงานเป็นจับกังผสมปูนเทลาย ตามวัด ทำซุ้มประตูวัด โบถส์ ศาลา ที่นี้และครับที่ทำให้ผมได้ฝึกเขียนลายไทย ปั้นลายไทย แล้วก็ปั้นพระพูทธรูป งานศิลปะไทยๆ ผมเรียนที่นี้ครับ เรียนกับ ช่างปอง ช่างแสง ช่างทุม ทำได้อยู่ 6 เดือน ครับเพื่อก็ชวนมาเล่นดนตรีอยู่กรุงเทพ แล้วก็มันเป็นฝันอยู่แล้วที่อยากเล่นครับ ก็เลยลาออกแล้วก็มาอยู่กรุงเทพ

มาแรกๆ ก็เล่นเป็นแบลคอัพตลกส่วนกลางวันยังว่าง เพื่อนที่บางกะปิก็เลยหางานให้เป็นผู้ช่วยช่างภาพเด็กขนของพูดง่ายๆ แต่ก็สนุกดีครับได้ไปไหนมาไหนหลายๆ ที่เขาโรงแรมใหญ่ๆ อย่างดุสิตธานี อย่างรีเวอร์ไซท์ สถานทูตสหรัฐ สถานทูตฝรังเศษ ได้ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ไปภูเก็ต ลงเรือไปถ่ายที่เกาะพีพีเจอกับนางแบบ ได้ประสบการมากมาย แล้วก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากพูดกับฝรั่งให้ได้ แล้วก็ฝึกมาตลอดแต่ก็ไม่กล้าพูด แล้วก็ได้มุมมองของภาพต่าง มุมมองในเรื่องของแสง แล้วได้เจอโฟโต้ช๊อปตอนไปส่งงาน แต่เจอแบบห่างๆ แต่ก็ชอบแล้วก็รู้สึกดีกับมันแล้ว

จากนั้นพองานพี่ช่างภาพเขาเริ่มน้อยลงผมก็กลับบ้านอุทัยที่นี้โรงเรียนก็มีคอมพิวเตอร์มาลงพอดีกับเพื่อนผมก็จบปวส พอดียังตกงานอยู่

หลังจากนั้นก็เดินตามหาความฝันของตัวเองอยู่นานเพราะต้องหาเงินซื้อคอมเครื่องแรกให้ได้ จนกระทั้งได้กับแฟนแล้วอยู่ด้วยกัน จึงใช้เงินที่แฟนเล่นแชร์ได้ซื้อคอมเครื่องแรก

สเปกเทพ เพนเทียม 200 mhz  ram 64 Mb Hardisk  4 Gb  ราคา อยู่ที่ 12,000 บาท ที่แรกว่าจะเป็นช่างเขียนแบบ เพราะช่างกราฟฟิค ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แล้วก็เงินเดือนไม่ค่อยเยอะ จึงฝึกและเรียนเขียนแบบด้วยโปรแกรม Auto Cad V.R14 จึงทำให้ตัวเองมีความรู้เรืองภาพไอโซเมติก และมุมมองของการเขียนภาพ สามมิติ แต่การจะเป็นช่างเขียนแบบต้องมีวุฒิการศึกษาจึงจะเข้าทำงานได้ 

 

หลังจากนั้นจึงหันมาเรียนรู้โปรแกรม Adobe Photo Shop 5.5 ด้วยความที่มีพื้นฐานงานศิลป แม้จะพึ่งเรียนรู้การใช้เครื่องมือไม่กีอันและเอฟเฟค ไม่กีตัว ก็สามารถออกแบบฉลากสินค้าจนทำให้สามารถเข้าทำงานที่ บริษัท มั่นคงอินเตอร์ฟีด จำกัดได้ และทำให้ได้เจอพี่ที่ทำงานซืึ่งเป็นคนตัดสินใจรับผมเข้าทำงาน และแนะนำให้รู้จัก Adobe Illustrator ซืึ่งก็เรียนรู้ไม่กีสัปดาผมก็ทำความเข้าใจได้ดี เพราะมีเครื่องมือและตัวเลือกต่างๆ คล้ายๆ โฟโต้ช๊อป ทำงานอยู่  6 เดือน จึงอยากหาประสบการเพิ่ม จึงย้ายไปอยู่โรงพิมพ์

 

เป็นโรงพิมพ์ อ๊อฟเซ็ท ซื่งโรงพิมพ์ก็จะมีหนังสือให้ทำ มีโบวส์ชัว มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ และสื่อสิ่งพิมพ์ทุกประเภท ที่สำคัญ งานหลักก็คือ การดราฟลาย การ์ตูนต่างๆ เพื่อทำสติ๊กเกอร์ ส่งสำเพ็ง จึงทำให้ผมดราฟเร็วและมีความเข้าใจในการดราฟ สีต่างๆ อยู่ได้  4 ปี ผมก็ออกไปทำงานบริษัทส่งออก สิ้นค้ากิฟช๊อป ซื่งต้องออกแบบ ลายกระเป๋า ลายของใช้ที่เป็นของนารักๆ ที่สำคัญตั้งขึ้นตัวอย่างงานให้ลูกค้าดูด้วย จึงได้ไปเรียนพิมพ์สกรีน กับบริษัท ชัยบูรณ์ แถวๆ หน้าสนามศุภชลาศัย 

 

มีโทรศัพท์จากโรงพิมพ์ในขอนแก่นบอกว่าต้องการคนและให้เงินเดือนเท่ากับที่ได้อยู่ ตอนนั้นมีลูกสองคนแล้วก็ประสบปัญหาเรื่องบัตรเครดิต จึงรับปากทางขอนแก่น เพราะอยากกลับบ้านอยู่ใกล้กับลูกเมีย มาทำงานที่แรก ที่ขอนแก่น ไม่เคยใช้อีลาสในการออกแบบ ใช้แต่ Page Maker จึงพบปัญหาเรื่องการเลย์ฟิล์ม เพราะโปรแกรมเลย์ ไม่รับไฟล์อีลาสทำให้มีปัญหากับที่ทำงาน

 

พอดีทางบริษัท ซายน์ปริ้น จำกัด ซืึ่งเป็นร้านปริ้นอิงเจ็ท ร้านแรกๆ ในขอนแก่นที่มีเครื่องอิงเจ็ท ด้วยความที่มีความอยากเรียนรู้ จึงออกจากโรงพิมพ์ มาเรียนรู้เรื่องงานพิมพ์ อิงเจ็ท และใช้โปรแกรม อีลาสในการออกแบบงาน ในระหว่างการทำงานจึงเห็นความยากลำบากของการทำโลโก้ ทำลายเส้นต่างๆ ของช่างออกแบบตามร้านปริ้น จึง คิดสร้างเว็บไซต์เพื่อที่จะรวบรวมไฟล์ เวกเตอร์ ที่ตนดราฟ และออกแบบขึ้นมา โดยใช้เชื่อว่า อีสานเวกเตอร์ ชื่อโดเมนว่า www.es-vector.com 

ปัจจุบัน ลาออกจากบริษัท มารับงานอิสระ ในการออกแบบกราฟฟิค สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ออกแบบเวบไซต์  ทำอาชีพเกษตรกรไปด้วย และดูแลเว็บไซต์ อีสานเวกเตอร์ 

ช่องทางการติดต่อ

โทร:

0871719278

0638842752


lineId Line: eak25191976 

social-facebook-box-blue-icon
Facebook : เอก อีสานเวกเตอร์    

gmailE-mail  pattapup@gmail.com 
pattapup@hotmail.com

ที่ปรึกษากฏหมาย

332315

id line : p_devere8789
Mobile : 09-9459-5564
name : พงษ์พิชญ์ อ่อนละมัย
ที่ปรึกษากฎหมาย

ล๊อกอิน

ล๊อกอินก่อนใช้งาน



สวัสดีสมาชิก
 
logo footer Designed by TemplatePlazza - All Rights Reserved